ข้อมูลพื้นฐาน | |
ชื่อสินค้า | แอล-ทริปโตเฟน |
ระดับ | เกรดฟีด |
รูปร่าง | ผงคริสตัลสีขาวถึงสีเหลืองอ่อน |
การทดสอบ | 99% |
อายุการเก็บรักษา | 2 ปี |
การบรรจุ | 25กก./ดรัม |
ลักษณะเฉพาะ | ละลายได้ในน้ำ แอลกอฮอล์ กรด และด่าง ไม่ละลายในอีเทอร์ |
เงื่อนไข | เก็บในที่มืด บรรยากาศเฉื่อย อุณหภูมิห้อง |
แอล-ทริปโตเฟน คืออะไร?
เนื่องจากเป็นกรดอะมิโนที่จำเป็น แอล-ทริปโตเฟนจึงมีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตตามปกติของทารกและเพื่อความสมดุลของไนโตรเจนในผู้ใหญ่ ซึ่งไม่สามารถสังเคราะห์ได้จากสารพื้นฐานในมนุษย์และสัตว์อื่นๆ แสดงให้เห็นว่าได้มาจากการบริโภคทริปโตเฟนหรือทริปโตเฟนเท่านั้น มีโปรตีนสำหรับร่างกายมนุษย์ซึ่งมีมากโดยเฉพาะในช็อกโกแลต ข้าวโอ๊ต นม คอทเทจชีส เนื้อแดง ไข่ ปลา สัตว์ปีก งา อัลมอนด์ บักวีต สาหร่ายสไปรูลิน่า และถั่วลิสง เป็นต้น สามารถใช้เป็นอาหารเสริมได้ เพื่อใช้เป็นยาแก้ซึมเศร้า ยาคลายเครียด และช่วยการนอนหลับ ดังนั้น แอล-ทริปโตเฟนจึงสามารถใช้สำหรับภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล หยุดหายใจขณะหลับ กลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน และปัญหาอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในการจัดการความทนทานต่อความเจ็บปวดและควบคุมน้ำหนักได้อีกด้วย
ออกฤทธิ์โดยการเพิ่มระดับสารสื่อประสาทบางชนิดในสมองที่เรียกว่าเซโรโทนิน คนที่เป็นโรคซึมเศร้าจะมีความไม่สมดุลของเซโรโทนินและสารเคมีในสมองอื่นๆ ดังนั้นการเพิ่มขึ้นของระดับเซโรโทนินในสมองจึงทำให้อาการซึมเศร้าดีขึ้นได้ L-Tryptopan ทำหน้าที่เป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์เซโรโทนิน ซึ่งจะถูกแปลงเป็นเซโรโทนินในร่างกาย ส่งผลให้อาการซึมเศร้าและปัญหาอื่นๆ ดีขึ้น
การประยุกต์ใช้ผลิตภัณฑ์
ยาประเภทกรดอะมิโน:
สามารถใช้ในการชงกรดอะมิโน โดยมักใช้ร่วมกับธาตุเหล็กและวิตามิน การบริหารร่วมกับ VB6 สามารถปรับปรุงภาวะซึมเศร้าและการป้องกัน/รักษาโรคผิวหนังได้ เป็นยานอนหลับสามารถใช้ร่วมกับ L-dopa ในการรักษาโรคพาร์กินสันได้ เป็นสารก่อมะเร็งในสัตว์ทดลอง อาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ เช่น อาการคลื่นไส้ อาการเบื่ออาหาร และโรคหอบหืด หลีกเลี่ยงการใช้ร่วมกับสารยับยั้ง monoamine oxidase
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร:
ทริปโตเฟนที่มีอยู่ในโปรตีนไข่ขาว เนื้อปลา ข้าวโพดป่น และกรดอะมิโนอื่นๆ มีจำนวนจำกัด ปริมาณในธัญพืชเช่นข้าวก็มีน้อยเช่นกัน สามารถใช้ร่วมกับไลซีน เมไทโอนีน และทรีโอนีนเพื่อเพิ่มกรดอะมิโนได้ สามารถเสริมผลิตภัณฑ์ข้าวโพดได้โดยมีทริปโตเฟน 0.02% และไลซีน 0.1% ซึ่งสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพของโปรตีนได้อย่างมีนัยสำคัญ